วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

การตัดเล็บ ชูการ์ไกรเดอร์

advertisement
-->
เป็นการตัดเล็บที่ถูกต้อง และมีภาพชัดเจนที่สุด ได้อภินันทนาจาก คุณ Zimba จากเว็บ Jinjobin.pantown.com
นางแบบชื่อ "เป ล่า" อายุ 8 เดือน
 

อุปกรณ์ ที่ใช้ตัด

มารู้จักกับนิ้วเท้าขาหน้ากัน

โดยเราจะตัดปลายเล็บทั้ง 5 นิ้วเรย

รูปถัดมาจะเป็นเท้าหลัง  ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีเล็บเล็กๆ 2อัน ที่อยู่ด้านหน้า อันนั้นเข้าใจว่าเป็นเล็บที่เค้าใช้สำหรับแต่งตัว  ส่วน เล็บที่อยู่ถัดไป จะเป็นเล็บยาวๆ อันนั้นเป็นเล็บที่เราจะทำการตัดปลาย

ดูเล็บเท้าหลังที่จะทำการตัดเล็ม อีกครั้ง

ต่อไปคือลักษณะการจับนิ้วเวลาตัด ใช้มืออีกข้างหนึ่งจับอุ้งเท้าของชูก้าร์ ไว้โดยต้องจับไว้ให้แน่นกันสะบัด กระตุก  ซึ่งอาจจะเป็นเหตุทำให้พลาดและตัดเล็บลึกเกินไป เวลาตัดต้องตัดทีละนิ้วนะคับ

ต่อไป เป็นเรื่องความพร้อมของนางแบบ อาศัยจังหวะนางแบบ/นายแบบหลับๆ เคลิ้มๆ พูดง่ายๆว่า แบบของเรานิ่งๆเป็นดีที่สุด 
บางคนอาจจะเอาผ้าห่อไว้ก่อน แล้วให้ยื่นแต่มือที่จะตัด

เอาล่ะ มาลุยกันเรย จับมือเค้าไว้ข้างหนึ่งจับให้แน่พอที่จะไม่สะบัดหลุด  ใช้สองนิ้วเราจับเอาไว้แบบนี้

จากนั้นมาดูส่วนปลายแหลมๆ ที่เราจะตัดกัน

ใกล้เข้ามาอีกนิด  จะได้เห็นกันชัดๆ
ทุกท่านโปรดสังเกตุดีๆจะเห็นได้ว่าเล็บของน้องๆเค้าจะมีเส้นประสาทแดงๆ อยู่มากทีเดียว เช่นเดียวกันกับเล็บของสุนัข แมว กระต่ายทั่วๆไป 
ถ้าตัดพลาดอาจจะทำให้เกิดการเลือดไหลได้แน่ๆ

เมื่อทราบถึงส่วนที่ต้องตัดแล้ว เราก็จะทำการตัดด้วยกรรไกรอันเล็ก

อันนี้ถอยออกมาดูภาพรวม

อันนี้คือการตัด  โดยใช้กรรไกรอีกแบบหนึ่ง

จับนิ้วให้มั่นคับ
 

เท้าหน้า เสร็จแล้ว 
 

ต่อด้วยเล็บเท้า ตัดแค่ 2 นิ้วที่เป็นเล็บให้นะคับ

เรียบร้อยไปอีกข้าง
 
เป็นอันเสร็จการรีวิวคะ

ข้อสังเกต แต่ละตัว ความยาวของปลายประสาทกับนิ้วที่ขาวๆ (ส่วนที่ตัดได้) จะไม่เท่ากันสักตัว บางตัว อาจตัดได้เยอะหน่อย เพราะปลายเส้นประสาทสีแดงๆ มันยาวไม่มาก อันนี้คุณพ่อ คุณแม่ ต้องสังเกตดีๆนะคะ

อย่างกรณีนี้ เป ล่า ปลายประสาทค่อนข้างยาวออกมามากๆ ตัดเยอะไม่ได้ เค้าจะร้องและชักนิ้วกลับ ดีไม่ดี แว้งงับเราได้ ตัดได้แค่จิ๊ดเดียว อาศัย ตัดบ่อยๆแทน (บ่อยที่ว่า 3 วันหนกันทีเดียวคะ)


หวังว่าคงมีประโยชน์กับหลายๆคนนะคะ
จบการรีวิว โดย หัวหน้าแก๊งค์ zimba นางแบบโดย เป ล่า คะ
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก: http://www.pantown.com/board.php?id=9651&area=4&name=board17&topic=828&action=view

ควรเลี้ยง ชูการ์ไกรเดอร์ กี่ตัวดี

advertisement


โดยทั่วไปแล้ว ชูการ์ไกรเดอร์ เป็นสัตว์ที่ชอบอยู่เป็นกลุ่ม ชอบการมีสังคม ดังนั้นจึงควรเลี้ยง ชูการ์ไกรเดอร์ อย่างน้อยสองตัวขึ้นไปเนื่องจากการเลี้ยง ชูการ์ไกรเดอร์ สองตัวขึ้นไปนั้น จะช่วยเสริมสร้าง สุขภาพจิต และ สุขภาพกายของชูการ์ไกรเดอร์ของคุณให้ดียิ่งขึ้นได้ เนื่องจาก ชูการ์ไกรเดอร์ ที่ถูกเลี้ยงตัวเดียวอาจจะเกิดอาการเหงาและเกิดความเครียดได้ คุณจึงต้องมีเวลาให้เค้ามากกว่าปกติ แตกต่างจาก ชูการ์ไกรเดอร์ ที่เลี้ยงรวมกัน หลายตัว ที่มักจะใ้ช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับฝูงมากกว่าที่จะมาสนใจอยู่กับเรา ดังนั้นความผูกพัน และความเชื่อใจก็จะแตกต่างกันไปด้วย

เลี้ยง ชูการ์ไกลเดอร์ เพศไหนดี

advertisement




โดยทั่วไปแล้วลักษณะนิสัยของ ชูการ์ไกลเดอร์เพศผู้กับเพศเมียนั้นแทบจะไม่แตกต่างกัน ทั้งเรื่องของ ความซนความขี้เกียจ ความขี้เล่น ความช่างสงสัยนั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะ อุปนิสัยของแต่ละตัว และ ที่สำคัญคือ ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของผู้เลี้ยงแต่ละคนด้วย ว่าเอาใจใส่มากน้อยแค่ไหน

สำหรับ ชูการ์ไกลเดอร์ เพศเมียนั้น จะมีกระเป๋าหน้าท้อง ซึ่งเป็นที่ หมักหมมของความชื้น เชื้อโรค และสิ่งสกปรกได้ ผู้เลี้ยงจึงควรหมั่นดูแลเรื่องความสะอาด และไม่ควรปล่อยให้กระเป๋าหน้าท้องของ ชูการ์ไกลเดอร์ เพศเมียเปียกชื้น แต่ห้ามเปิดกระเป๋าหน้าท้องของ ชูการ์ไกลเดอร์ มาทำความสะอาดเด็ดขาด ให้ทำความสะอาดแต่ภายนอกเท่านั้น เพราะอาจทำให้กระเป๋าหน้าท้องเป็นแผล และ ติดเชื้อได้

ข้อมูลที่จำเป็นก่อนการหา ชูการ์ไกรเดอร์ มาเลี้ยง

advertisement


ผู้ขายที่ดีควรจะเป็นคนที่ให้ความรู้ในเรื่องการเลี้ยง ชูการ์ไกรเดอร์ กับคุณอย่างละเอียดและพร้อมที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับ ชูการ์ไกรเดอร์ กับคุณตลอดเวลาหลังการขาย ไม่ควรซื้อ ชูการ์ไกรเดอร์ กับคนที่มาเร่ขายหรือไม่มีร้านค้าเป็นหลักแหล่ง การซื้อจากผู้ขายทางอินเตอร์เน็ทควรจะหาจากผู้ขายที่ดูน่าไว้ใจ ที่เปิดโอกาสให้คุณได้นัดพบ และมีสิทธิ์ได้เลือกเห็นตัวจริงของ ลูกชูการ์ไกรเดอร์ ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยก่อนเลือกซื้อนั้นคุณควรจะหาข้อมูลของร้านหรือแหล่งขาย ชูการ์ไกรเดอร์ ให้ดีเสียก่อน 

ข้อมูลเสริม สิ่งสำคัญที่สุดก่อนการรับน้องมาเลี้ยง

การเลือกชูการ์ไกรเดอร์มาเลี้ยง
ควรรับน้องจากร้านที่ดูสะอาด สังเกตุได้จากกรงที่ใส่น้องผ้าที่รองกรงต้องไม่ดำไม่เปียก ขนที่ตัวน้องต้องเรียบเนียนไม่จับกันเป็นก้อน บ่งบอกว่าโดนปัสวะหรือนมมา เป็นการบ่งบอกว่าผู้ขายไม่ได้ใส่ใจความสะอาดของน้องเลย น้องจะต้องมีอายุตั้งแต่ 2.5 เดือนไปจนถึง 3 เดือน ถ้าน้อยกว่า 2.5 เดือนแสดงว่าน้องยังเด็กมากไม่เหมาะแก่การนำมาเลี้ยง ควรสอบถามผู้ขายให้แน่ใจก่อน

อาหารของชูการ์ไกรเดอร์ 
ช่วงแรกที่รับน้องมาเลี้ยง ควรให้ซีรีแล็ค หรือ นมหมาเล็ก ไม่ควรให้นมวัวเพราะนมวัวมี น้ำตาลแลคโตสสูง ซึ่งทำให้ระบบย่อยของน้องไม่สามารถย่อยได้ 


เมื่อน้องอายุได้ประมาณ 4เดือน อาหารอย่างแรกที่ควรให้กินก็คือ ผลไม้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แนะนำเป็นมะละกอครับ



อาหารจำพวกหนอน ช่วงแรกควรให้ในปริมาณที่น้อยๆก่อน และ ควรให้นอนสลับกับให้ผลไม้ เพื่อให้น้องปรับสภาพท้อง

อุปกรณ์สำหรับชูการ์ไกรเดอร์
กรง ตามแต่ความชอบใจ ซื้อได้ตามกำลังงบครับ อาจจะซื้อกรงใหญ่หน่อย ถ้านึกถึงอนาคตที่น้องจะเติบโตขึ้น ก็สามารถซื้อกรงใหญ่ได้เลยครับ



บ้านหรือรัง ควรทำจากผ้านุ่ม หรือใช้เป็น ตะกร้าสานแล้วนำผ้านุ่นไปวางไว้ในตะกร้าสานก็ได้ครับ

ถ้วยอาหาร แนะนำให้เป็นถ้วยเซรามิก เพราะเมื่อใช้ไปนานๆจะไม่เกิดการลอกล่อน เหมือนพลาสติก
หมายเหตุ: ถ้าหาอุปกรณ์เป็นไม้ได้จะดีกว่าครับ เพราะน้องชอบกัดชอบแทะถ้าเป็นพลาสติกเวลาน้องกัดหรือแทะอาจจะมีการกินเข้าไปบ้าง ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของน้องได้ในอนาคตครับ


วิธีการเลี้ยงดูแลชูก 
ก็ไม่มีอะไรมากครับ เพราะถ้าน้องกินอาหารได้เองแล้ว เราก็ดูแลแค่ความสะอาด และ สุขภาพของน้องเท่านั้นเอง จะยากตอนที่รับมาเลี้ยงใหม่ๆเท่านั้นเอง เพราะเราต้องป้อนนม 2-3 ชั่วโมงครั้ง

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนนำ ชูการ์ไกรเดอร์ มาเลี้ยง

advertisement


  • กรง อาจจะเตรียมกรงขนาดใหญ่เลยก็ได้ จะได้ไม่ต้องซื้อสองรอบ

  • ของเล่นต่างๆ ของเล่นชนิดต่างๆ ของ ชูการ์ไกรเดอร์

  • รัง , ถุงนอน , ที่นอน จำเป็นมากสำหรับ ชูการ์ไกรเดอร์ เพราะน้องเป็นสัตว์ที่ิิออกหากินเวลากลางคืน ดังนั้น บ้าน ที่นอน หรือ ถุงนอน จึงมีความจำเป็นสำหรับน้องมาก เพราะช่วยบดบังแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ที่จะมาแยงตาเวลาที่นอนหลับพักผ่อนตอนกลางวัน


  • ผ้าที่นุ่มและไม่ติดเล็บ เช่น ผ้าสำลี ก็เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับลูก ชูการ์ไกรเดอร์ ลูกชูการ์ไกรเดอร์ ที่อายุอยู่ระหว่าง 2.5 เดือน ไปจนถึง 4 เดือนน้องมักจะยังไม่มีแรงในการปีนป่ายไปไหนมาไหน ในระยะนี้น้องมักจะติดผ้านุ่นๆมากกว่าติดบ้านสำเร็จรูปที่เรานำมาให้


  • ถ้วย , ชาม, ใส่อาหาร จำเป็นมากในการให้อาหาร ชูการ์ไกรเดอร์ ซึ่งอาหารของน้องบางครั้งก็จะเป็นสิ่งมีชีวิตนั่นก็คือหนอนนั่นเอง ดังนั้นภายชนะที่ใส่อาหารควรเป็น เซรามิก เพื่อไม่ให้หนอนปีนขึ้นมาจากถ้วยได้ 
  • หลอดใส่น้ำขนาดเล็ก

  • หลอดป้อนอาหาร ( ดรอปเปอร์ )

  • อาหาร นม

  • กล่องเคลื่อนย้ายยามฉุกเฉิน

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556

ชูการ์ไกรเดอร์ คืออะไร

advertisement

ชูการ์ไกรเดอร์ คือสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้องขนาดเล็กที่มีเชื้อสายใกล้ชิดกับ จิงโจ้ โคอาล่า ชูการ์ไกรเดอร์ นั้นเป็นสัตว์สังคมที่หากินเวลากลางคืน มีถิ่นฐานมาจา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หมู่เกาะปาปัวนิวกีนี และบางส่วนของประเทศอินโดนีเซีย

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของ  ชูการ์ไกรเดอร์ คือ petaurus breviceps ซึ่งมีความหมายว่า นักกายกรรมเชือกหัวสั้น ซึ่งมาจากความสามารถในการเคลื่อนที่บนต้นไม้และการเคลื่อนไหวในอากาศของ ชูการ์ไกรเดอร์ นั่นเอง จึงเป็นที่มาของชื่อ ชูการ์ไกรเดอร์ แต่ประเทศไทยเรานิยมเรียก ชูการ์ไกรเดอร์ ว่า จิงโจ้บิน เพราะว่า ชูการ์ไกรเดอร์ เพศเมียนั้นมีกระเป๋าหน้าท้องและเป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกับ จิงโจ้ นั้นเอง

วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

ชูการ์ไกรเดอร์ Sugar Glider

advertisement



ชื่อสามัญ : Sugar Glider
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Petaurus Breviceps
ถิ่นกำเนิด : ออสเตรเลีย ปาปัวนิวกินี อินโดนีเซีย
อาหาร : ผลไม้รสหวาน หรือ แมลงตัวเล็กๆ
อุปนิสัย : เป็นสัตว์หากินตอนกลางคืน และ อยู่กันเป็นกลุ่ม
รูปร่าง : โตเต็มวัยวัดจากจมูกถึงหางยาวประมาณ 11 นิ้ว
อายุ : ประมาณ 10-15 ปี


ชูการ์ไกรเดอร์ หรือ เรียกกันว่า จิงโจ้บิน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก จัดเป็นสัตว์ที่อยู่ในอันดับสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้องจำพวกพอสซั่ม เนื่องจากในตัวเมียจะมีกระเป๋าหน้าท้อง ใช้สำหรับให้ลูกอ่อนอยู่อาศัยจนกว่าจะโต ชูการ์ไกรเดอร์ มีลักษณะภายนอกคล้ายคลึงกับกระรอกบินมาก แต่เป็นสัตว์คนละอันดับกัน เนื่องจากกระรอกบินเป็นสัตว์ที่อยู่ในอันดับสัตว์ฟันแทะ ชูการ์ไกรเดอร์ เป็นสัตว์ที่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงตั้งแต่ 6-10 ตัวขึ้นไป และแต่ละฝูงจะมีการกำหนดอาณาเขตของตัวเองอย่างชัดเจน ซึ่งตัวผู้ที่เป็นจ่าฝูง จะมีการปล่อยกลิ่นเพื่อกำหนดอาณาเขตของตน อายุโดยเฉลี่ยของ ชูการ์ไกรเดอร์ จะอยู่ได้ถึง 10-15 ปี ตามธรรมชาติแล้ว ชูการ์ไกรเดอร์ จะอาศัยอยู่บนต้นไม้ ดังนั้นจึงมีเล็บที่แหลมคมในการใช้เกาะ หรือ กระโดดข้ามจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่ง ขนมีลักษณะนุ่มมาก ตามบริเวณข้างลำตัวของมันจะมีพังผืด ซึ่งสามารถกางได้จากขาหน้าไปถึงขาหลังเพื่อลู่ลมเวลาร่อน เหมือนกับ กระรอกบิน ชูการ์ไกรเดอร์ เป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางคืน โดยอาหารหลักๆ ของมันคือ แมลง ส่วนผลไม้ จะถือเป็นอาหารรอง เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดความยาวจากจมูกถึงปลายหางจะอยู่ที่ 11 นิ้ว การขยายพันธุ์ แพร่กระจาย ตั้งแต่ ปาปัวนิวกินี จนถึงออสเตรเลีย ทางซีกตะวันออก ด้วยความน่ารักของมัน ประกอบกับเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็ก และมีอุปนิสัยไม่ดุร้าย ทำให้ ชูการ์ไกรเดอร์ ป็นที่นิยมนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง กันมากในปัจจุบัน สามารถเพาะและขยายพันธุ์ในที่เลี้ยงได้แล้วในปัจจุบัน

นิสัยของ ชูการ์ไกเดอร์
จะแบ่งนิสัยออกเป็นช่วงๆ ของอายุ
ชูการ์ไกรเดอร์ มีนิสัย ซุกซน ขี้เล่น ขี้อ้อน ขี้ตกใจ  ชอบกัดแทะ ปีนป่าย ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
และ ชอบนอนตอนเช้าและตื่นตอนกลางคืน

การสืบพันธุ์ของ ชูการ์ไกเดอร์ ตัวผู้ ที่พร้อมผสมพันธ์ จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 10 เดือน ตัวเมีย ที่พร้อมผสมพันธ์ โดยประมาณ 8 เดือน
อยู่ราวๆ เดือนมิถุนายน ถึง เดือนพฤศจิกายน จะเข้าสู่ช่วงฤดูผสมพันธุ์ โดยตัวผู้หนึ่งตัวสามารถผสมกับตัวเมียได้หลายตัว ชูการ์ไกรเดอร์ จะใช้ระยะเวลาในการทั้งท้อง 16 - 21 วัน คลอดลูกครั้งละ 1-2 ตัว เมื่อคลอดลูกออกมาแล้ว  ลูกจะคลานเข้าสู่กระเป๋าหน้าท้องของแม่ทันที





ข้อห้ามและข้อควรระวังในการเลี้ยง
ห้ามอาบน้ำ สำคัญมากเพราะชูก้าร์จะคอยทำความสะอาดตัวเองอยู่แล้ว เว้นแต่ถ้าเปื้อนเศษ อาหารให้ใช้วิธีเอาผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตามตัวและขน ไม่ควรปล่อยให้แห้งกรังนานๆ อาจจะก่อให้เกิดเชื้อราได้

ห้ามใช้ไดรเป่าผม เป่าชูก้าร์โดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้ชูก้าร์หูแหว่งได้

ห้ามให้กินอาหาร หรือ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน รวมทั้งช็อกโกแลต ฯลฯ

ห้ามให้ดื่มนมวัวเด็ดขาด เพราะนอกจากจะระบบอาหารของชูก้าร์จะย่อยไม่ได้แล้ว ยังจะทำให้ชูก้าร์ท้องเสียอย่างรุนแรงจนอาจตายได้ในที่สุด

เรื่องอาหาร ควรจะเป็นของใหม่ อย่าให้อาหารทิ้งค้างคืนพยายามอย่าเกินครึ่งวัน โดยเฉพาะนมแพะ ควรเปลี่ยนใหม่ทุกมื้อเพราะว่านมแพะสดจะเสียง่ายกว่านมอื่น

ลำไส้ของชูก้าร์ไม่เหมือนคน ตรงส่วนที่เป็นไส้ติ่ง เพราะใช้ในการหมักอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต(แป้ง) เพื่อให้ได้สารอาหารขั้นสุดยอด(ไม่รู้จะเรียกว่าไร) ซึ่งถ้าสิ่งที่ชูก้าร์กินเข้าไปเป็นอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สในลำไส้อาจจะทำให้ ชูก้าร์ป่วยตายด้วยโรคท้องอืดได้ เพราะฉะนั้นผู้เลี้ยงควรระวังอาหารที่มีแก๊สเช่น ทุเรียน กล้วย เป็นต้น และระวังเรื่องการกินทิชชู่เข้าไปด้วย

ไม่ควรให้กินผัก ผลไม้ อาหารรสหวานมากจนเกินไป เพราะอาจจะส่งผลกับการมองเห็นได้

ไม่ควรให้กินอาหารไขมันสูงมากเกินไป เช่น การให้หนอนในปริมาณมาก เพราะจะทำให้เกิดจุดเล็กๆขาวๆ ในตา เนื่องจากการสะสมของไขมันในตา

การขาดโปรตีน แคลเซียม และฟอสเฟส เช่น การให้กินแต่ผลไม้ อาจทำให้เป็นโรคกระดูกเสื่อมและโรคเกี่ยวกับฟันได้ ส่งผลให้ขาหลังอ่อนแรงจนกลายเป็นอัมพาตขาหลังได้ ผู้เลี้ยงสามารถให้ ไข่ผง ผงแคลเซียม ไข่แดงต้มสุก ตับบด(ละเอียด) นม ฯ เป็นต้น เพื่อให้สารอาหารนั้นครบถ้วนเพียงพอต่อร่างกายชูก้าร์

การขาดวิตามินดี เนื่องจาก ไม่ได้รับแสงแดดเพียงพอ (ชูก้าร์ไกรเดอร์ควรจะได้รับแสงแดดยามเช้า-เย็นแบบอ่อนๆ เช่น แสงก่อนตะวันลับฟ้าซักเล็กน้อย)

การออกแดด เป็นสิ่งที่ควรระวังมากๆ เพราะว่า ถ้าพาออกไปที่แดดจ้ามากๆ ชูก้าร์อาจจะมีผลต่อร่างกายและดวงตาได้ ทุกๆท่านต้องอย่าลืมว่า ชูก้าร์ไกลเดอร์ ที่ท่านเลี้ยงนั้นเป็นสัตว์กลางคืน อย่างเช่นดวงตาของชูก้าร์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่ออยู่ในตอนกลางวัน แดดที่จ้า นอกจากจะทำให้ชูก้าร์เป็นฮีทตายได้แล้ว ยังอาจจะทำให้ตาเค้าบอดได้ด้วย เพราะฉะนั้น ทุกท่านโปรดระวังการพาเค้าไปออกแดดจ้าๆด้วย สังเกตุจากแดดที่เราไม่ต้องหรี่ตามองน่าจะพอให้เค้าออกมาตากแดดได้นิดๆหน่อยๆ

การปล่อยให้อยู่ตัวเดียว ควรจะมีตะกร้าหรือกรงใส่เอาไว้ เนื่องจากชูก้าร์ชอบซุกตัวตามผ้าโดนเค้าจะชอบมากๆ คือตะกร้าผ้าและตู้เสื้อผ้า และชอบซุกซนตีนป่ายที่สูง ดังนั้นอาจจะค้างเติ่งอยู่บนที่สูง อย่างเช่นหลังตู้เสื้อผ้า ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้อาจจะเกิดโศกนาฏกรรมได้ เพราะว่าเจ้าของลืมดูว่าเจ้าตัวเล็กหายไปไหน ถ้าอยู่ในตระกร้าผ้า อาจจะถูกปั่นลงเครื่องซักผ้าได้ และถ้าติดอยู่บนที่สูงโดยไม่ได้รับอาหาร เพราะว่าเจ้าของหาไม่เจออาจจะอดตายอยู่บนหลังตู้ได้

การใส่ชูก้าร์ ไว้ในกระเป๋าต่างๆ เช่น กระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง แล้วเจ้าของหลงลืม เผลอทำตกลงไปในชักโครก ล้วกดน้ำลงไปอีกคราวนี้จมน้ำตายไปเลย หรือการใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง เมื่อเจ้าของนั่งลง อาจจะทำให้ชูก้าร์แบนตายคากระเป๋ากางเกงได้

เวลานอน บางคนบอกว่าไม่สะดวกที่จะเล่นกับเค้าตอนกลางคืน ไม่ว่างจะป้อนอาหารดึกๆ คุณอาจจะเปลี่ยนเวลาตื่นของเค้าได้แต่นั่นเป็นการทำร้ายร่างกายเค้าทางอ้อม อาจจะส่งผลในระยะยาวภายหลังได้

บทความที่ได้รับความนิยม